วันอาทิตย์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2559

รีวิว BMW S1000 RR

REVIEW : BMW S1000 RR บนทุกรูปแบบของการใช้งานจริง

โดย  /  / 9,094 views
cover
BMW S1000 RR กับการปรับปรุงใหม่ ไฉไล โฉบเฉี่ยว ฟรุ้งฟริ้งกับระบบมากมาย พร้อมพลังที่สนุกมากขึ้นไปอีกระดับนึง
ต้องเรียกว่าเป็น 1 ในรถสปอร์ต คันนึง ทีเป็นที่หมายปองของใครหลายๆคนเลยทีเดียว กับ BMW S1000 RR คันนี้ซึ่งได้รับการ ปรับแต่งใหม่ในปี 2015 และที่สำคัญ กับการปรับลดราคาลงมาพอสมควรเลยทีเดียว เมื่อกลายมาเป็น S1000 RR ในเวอร์ชั่น CKD (Complete Knock Down หรือนำเข้าชิ้นส่วนแล้วประกอบในไทย) แต่เดี๋ยวก่อน ใช่ว่าประกอบไทยแล้วสเปคจะถูกตัดหายไปนะครับ แต่กลับกัน เพิ่มเข้ามาแบบ เรียกว่า “จัดเต็ม” ครบครันกันเลยทีเดียว โดยสเปค CKD นี้จะต่างกับตัวนอก ดังนี้เลยครับ
  • เพิ่ม Heated Grips เข้ามา เพื่อความฟินอุ่นๆ ของอุ้งมือ ได้ใช้เหรอ? ได้ใช้แน่ครับ ยิ่งถ้าใครชอบที่จะเดินทางไปภาคเหนือหน้าหนาว ต้องฟินแน่นอนเลยทีเดียว
  • เพิ่ม Cruise Control เข้ามา เพื่อความสบายมากขึ้น
  • ตัดเบาะคนซ้อนออกไป ให้เป็นครอบท้ายมาแทนเลย
  • ตัดพักเท้าหลังออก
  • ปรับไฟเลี้ยวเป็น LED แบบตัว HP4 เห็นดวงเล็กๆแบบนี้ สว่างจ้าเลยทีเดียว

bmw-s1000rr-2015-87
ก่อนอื่นเลยต้อง ขอขอบคุณ BKK Motorcycle ที่ได้สนับสนุน BMW S1000 RR คันงามคันนี้ มาให้เราได้ทำการขับขี่ และนอกจากนั้นทาง 40 Garage สำหรับยางกึ่งสนาม ชุดการ์ดเครื่อง และชุดกันล้ม ที่ให้เราใช้ในการทดสอบในสนามด้วยนะครับ (แบบว่าเสียวมาก) รีวิวครั้งนี้ออกมาช้าไปพอสมควรเนื่องจากเราต้องการ รันอิน ให้เรียบร้อยก่อน เพื่อที่จะได้ใช้สมรรถนะออกมาแบบเต็มๆ จากรถคันนี้กัน และใช้ขับขี่กันในสภาพการใช้งานจริงๆ
แหม่ตัวเราก็เน้นขี่เดินทางท่องเที่ยวมาตลอด แต่ได้รถสปอร์ต BMW S1000 RR มาขี่แบบนี้ก็จัดไปสิครับ เอาให้ครบทุกการใช้งานไปเลย ให้รอบด้านในการขับขี่ กับ S1000 RR รถที่เกิดมาเพื่อความเร็ว … เดี๋ยวๆๆ … เราไปเร็วแบบปลอดภัยกันบนสนามนะครับ (หลังจากร้างราไปพอสมควรทีเดียว มารื้อฟื้นกันเบาๆ เบาๆนะ สักหน่อยหล่ะกัน)
เพื่อความกระชับของเนื้อหาขอแบ่งหัวข้อในการรีวิวตามนี้
  1. รูปลักษณ์ทั่วไป
  2. รายละเอียดทางเทคนิค – เสปคตัวรถที่น่าสนใจ
  3. รายละเอียดทางเทคนิค – มาย่อยเรื่องโหมดการขับขี่กัน
  4. สัดส่วนคน และรถ
  5. การขับขี่ในสภาพถนนต่างๆ
  6. สนาม !
  7. ข้อดี/ข้อเสียต่างๆ
  8. อัตราสิ้นเปลือง
  9. น่าจะเหมาะกับ
  10. สรุป
การขับขี่โดยใช้ความเร็วสูง ท่าทางการเข้าโค้งจัดท่าต่างๆ กระทำในสนาม โดยผู้ขับขี่ที่มีประสบการณ์นะครับ
รูปลักษณ์ทั่วไป
S1000RRMTN
ปะกับไฟทางซ้าย
  • สวิทช์ไฟ pass โดยกดเข้าจะเป็น pass และผลักออกจะเป็นไฟสูงค้างนะครับ
  • สวิทช์ควบคุม Cruise Control ที่ใช้งานได้ง่ายดายมากๆ
  • สวิทช์ควบคุม ปิด / เปิด ABS และ DTC
  • ไฟ Hazard หรือที่เราเรียกว่าไฟผ่าหมาก
  • ปุ่มตั้งเวลา รีเซททริป เลือกการแสดงผล และเซทเวลาจับรอบการขับขี่ในสนาม
  • ปุ่มปรับระดับ DTC
  • สัญญาณไฟเลี้ยว
  • แตร
ปะกับไฟทางขวา
  • สวิทช์ปรับระดับ Heated Grips (100% กลมๆ 2 ก้อน และ 50% กลมๆ 1 ก้อน)
  • สวิทช์เลือกโหมดการขับขี่ (เดี๋ยวเรามาย่อยกัน)
  • ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์​ (และ โหมดออกตัวจากกริดสตาร์ท – Launch Control)
S1000RRMTN1
บนซ้าย กับครีบระบายความร้อนอันเป็นเอกลักษณ์ที่มาของชื่อ “ฉลาม” ในบ้านเรา
ล่างซ้าย กันสะบัดจาก Sachs ครับ ใช้งานทั่วไปดีมากเลยทีเดียว แต่ในการขับขี่สนามอาจจะทำงานช้าและมีอาการหนืดแบบปรับไม่ทันไปนิดนึง
ขวา ไฟเลี้ยวสำหรับ S1000 RR CKD เป็น LED มาทั้งชุดเลยนะครับ ยกมาจาก HP4 เลย

รายละเอียดทางเทคนิค – เสปคตัวรถที่น่าสนใจ
20151011_091537
2015-10-13_17h13_11
นอกจากนั้นรายละเอียดทางเทคนิคของระบบไฟฟ้ายังมี
2015-10-13_17h13_36
รายละเอียดทางเทคนิค – มาย่อยเรื่องโหมดการขับขี่กัน
สำหรับ BMW S1000 RR จริงๆแล้วค่อนข้างมีรายละเอียดเยอะพอสมควร แต่สิ่งนึงที่ลดความซับซ้อนในการปรับตั้งลงไปได้มาก มาก เลยทีเดียวคือ DDC หรือ Dynamic Damping Control และลดให้เหลือแค่ที่ต้องใช้สำหรับการขับขี่ที่เหมาะสมกับสภาพเส้นทาง หรือสนามซะมากกว่าครับ โดยพื้นฐานแล้วแต่ละโหมดที่เราเลือกใช้ เค้าก็จะปรับอิเล็กทรอนิกส์ ที่เหลือตามให้เราอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็น ABS / DTC กระนั้นมาสรุปกันง่ายๆเลยดีกว่า
ย่อยลงในเรื่องของ DDC (Dynamic Damping Control ซักนิด) ที่จะทำการปรับตั้งตัวเองโดยอัตโนมัติโดยใช้เงื่อนไขจาก 3 ส่วนของ เซนเซอร์หลักๆ
  1. คันเร่ง – ความเร็ว และการเปิดคันเร่งในขณะนั้น เช่น ยิ่งเร็ว ยิ่งเปิดแรง DDC ก็จะปรับตั้งให้รู้สึก “แข็ง” ขึ้น
  2. มุมเอียงของรถ และการเปิดคันเร่งออกโค้ง DDC ก็จะทำการปรับ การตอบสนองของ ช่วงล่างให้เหมาะสมกับการออกโค้ง
  3. สภาพถนน โดยวัดจาก เซนเซอร์ที่โช็คเพื่อดูระยะการเคลื่อนที่ (travel) ของโช็ค เพื่อปรับตั้งให้เหมาะสมกับสภาพถนน เช่นทางลูกรัง ลูกระนาด คอสะพานเป็นต้น
โดยทุกโหมดสามารถเลือกปิด/เปิด การทำงานของ ABS / DTC ได้อีกนะครับ
2015-10-13_17h13_52

สัดส่วนคน และรถ
rider163
แหม่ สัดส่วนผมก็ไม่เปลี่ยนแปลงซะด้วยสิ กับความสูง 163 cm. และแบกน้ำหนักตัวขนาด 65 kg !! T-T แต่ในการขับขี่จริง สไลด์ก้นลงมาให้เต็มเท้าซักข้างนะครับสบายกว่า

rider170
สำหรับผู้ขับขี่ลับของเรามากับสัดส่วนความสูงที่ 170 cm และน้ำหนักตัว 80 kg กำลังพอดีสบายๆเลยครับ

การใช้งานในสภาพการจราจร และถนนในเมือง
DSC00176
ในการใช้งานทั่วไปจริง น่าจะมีส่วนน้อย ที่ซื้อหารถสปอร์ตมา เพื่อลงสนามเพียงอย่างเดียวล้วนๆ กระนั้นเลยมาๆ เราเอามาใช้กันแบบ ขี่กันในชีวิตประจำวันกันเลยดีกว่า กับ BMW S1000 RR คันนี้
สำหรับการเดินทางในเมืองบน S1000 RR ทำได้ค่อนข้างคล่องตัวพอสมควรเลยครับ มิติรถที่ไม่ใหญ่โต ท่านั่งในการขับขี่ค่อนข้างสบาย (สำหรับสปอร์ต) พริ้วไหวไปได้ตามการจราจรแบบสบายๆ แรงบิดที่ส่งมาตั้งแต่รอบต่ำ เปิด คันเร่งไปได้ตามจังหวะไหลๆ เรื่อยๆ แต่ช่วงการยกคันเร่ง อาจจะมีแรงฉุดน้อยไปซักนิดนึง สำหรับรถสปอร์ต แต่ก็ทำให้สามารถขับขี่ได้ค่อนข้างง่ายมากทีเดียว
อาจจะติดขัดกันได้บ้าง หากเจอรถติดหนักๆ ที่ต้องหักรถเลี้ยวไปมาแคบๆ คือ สปอร์ตวงเลี้ยวค่อนข้างกว้างเลยหล่ะครับ เผื่อระยะ เผื่อที่ทางไว้จอดหลบซักนิด ก็สบายๆแล้วหล่ะ
ประเด็นร้อน !!! ความร้อนแผ่พุ่ง !!! สำหรับการใช้งานปกติอุณหภูมิของเครื่องยนต์วิ่งอยู่ราวๆ 102-109 องศาเซลเซียส เรียกว่า “ร้อน” เอาเรื่องเลยทีเดียวครับ สำหรับรถสปอร์ต แฟริ่งที่มีแม้จะช่วยกรีดไอร้อนออกด้านข้างไปบ้าง แต่ก็ยังร้อนขึ้นมาจนถึงเฟรม และถังน้ำมันได้ทีเดียว ถ้าเจอรถติดๆ หาที่จอดหลบ ดับเครื่องสบายๆ เพื่อสุขภาพช่วงล่างกันเถอะครับ
โหมดที่แนะนำ Sport (ทางแห้ง) / Rain (ทางเปียก)

การเดินทางท่องเที่ยวทั่วไป
20151011_091537
อย่างที่จัดมาให้เต็มๆกับออฟชั่นเสริมใน BMW S1000 RR CKD ตัวนี้ สิ่งนั้นคือ Cruise Control นั่นเอง !
กับการใช้งานจริงเดินทางระยะกลางๆ ช่วยได้มากพอสมควรเลยครับ ด้วยท่านั่งของรถสปอร์ต บางครั้งเราอาจจะมีเมื่อยหลัง ใช้แขนดันตัวบ้าง อะไรบ้าง ซึ่งก็ช่วยยืดเส้นยืดสายได้ระดับนึง แต่ข้อมือขวาจะกดน้ำหนักลงพอสมควร ถึงจะนั่งให้ถูกท่าแล้วก็ตาม Cruise Control ที่มีมาใช้งานได้อย่างง่ายดาย เพียงกด ‘set’ .. เสร็จ.. แล้ว …ผู้ขับขี่พักข้อมือผ่อนคลายได้เรื่อยๆครับ ไม่ล้าเกินไป
การเดินทางด้วยความเร็วยืนพื้น 100-120 km/h ทำได้ค่อนข้างดี บนเกียร์ 6 ที่รอบประมาณ 4,500 rpm ซึ่งเป็นช่วงที่แรงบิดกำลังจะขึ้นมา ทำให้ออกจะรู้สึกอึดอัดเล็กๆ ไปบ้าง ถ้ายืนที่รอบราวๆ 7,000-8,000 rpm ที่เกียร์ 4 จะรู้สึกดี และตึงๆมือมากกว่า แต่ขับขี่ปลอดภัยประหยัดน้ำมันกันเถอะครับ มาเดินทางท่องเที่ยว ยืนพื้นไปเรื่อยๆ ก็สบายดี
กับการเดินทางที่เรามุ่งหน้าไปยังจังหวัดอุทัยธานี ช่วงเย็นๆ พลบค่ำ อากาศค่อนข้างเย็นสบายเลยทีเดียว อ่ะมือเย็นเหรอ ไม่มีหวั่น heated grips ! … กับ ความอุ่นที่สัมผัสได้สองระดับ คือ 100% / 50% (สัญลักษณ์จะแสดงบนจอแสดงผล เป็นรูปกลมๆ 2 ก้อน และกลมๆ 1 ก้อน ตามลำดับ)
การเร่งแซงต่างๆ แหม่รถสปอร์ตระดับนี้ กับนิสัยของเครื่องยนต์ และแรงบิดที่ส่งออกมาอย่างมากมายทำให้ เร่งได้ดั่งใจนึก คือบิดเลย พุ่งปรี๊ด ถึงที่หมายทันที ความร้อนของรถที่เคยมีมากมายตอนขับขี่ในการจราจร แต่บนการเดินทางไม่รู้สึกอะไรครับ สบายๆ ไปเรื่อยๆ แฟริ่งด้านข้าง 2 ชิ้น ที่มีลักษณะไม่เหมือนกัน ถูกออกแบบมาเพื่อหน้าที่ที่เฉพาะในการจัดการการรีดระบายความร้อนออกจากตัวเครื่องยนต์ และรักษาเสถียรภาพของรถ จากการทดสอบด้วยอุโมงค์ลม ได้เป็นอย่างดี (ที่เราเรียกกันว่า ฉลาม ส่วนนึงก็มาจากลักษณะเด่นของครีบสองด้านนี่แหล่ะครับ)

20151011_092920
ไม่ได้ใส่เสื้อป้องกันเหมาะสม ^^’ เป็นการขับขี่ระยะสั้นๆนะครับ แค่วนออกมาจากที่พักชมวิวทิวทรรศน์ไปเรื่อยๆ
20151011_091926
สังเกตุตัวเลขตรงหน้าปัทม์นิดนึงนะครับ จะมีบอกด้วยว่ารถเราเอียงไปแล้วกี่องศา !!! (ในรูปเป็น 27 / 24 องศา) ชอบ!
ไว้คอยแทรคการขับขี่ในสนามของเราได้เลย (แต่นี่เรามาขี่ทางฝุ่นนี่หน่า ^^’)
หรือบังเอิ๊ญญญ บังเอิญญญ ไปเจอทางลูกรังหล่ะ หลายๆคนแทบจะคิดว่านี่มันฝันร้ายของรถสปอร์ตชัดๆ
ช้าก่อน ! บน S1000 RR คันนี้ มากับ DDC (Dynamic Damping Control) นี่ และปรับตั้งเองอัตโนมัติถึง 100 ครั้งใน 1 วินาที ทำให้ S1000 RR กลับกลายเป็นรถสปอร์ต ที่พร้อมจะลงลุยทางลูกรังได้ทันทีเลยเหมือนกันครับ ทำเอา เพื่อนๆที่ไปด้วยกันอึ้งกันไปเป็นแถว ว่าเฮ้ย S1000 RR ตาม GS ได้ยังไง !
… แต่ไม่ใช่ถึงขนาดไป ปีนหิน ลุยโคลน ลงน้ำนะครับ ใจเย็นๆ …
โหมดที่แนะนำ Sport / Race (สำหรับสภาพผิวถนนดีๆ)
ส่วนทางที่เราไม่ได้แพลนไว้เช่นทางลูกรัง Rain / Sport ผ่านได้สบายๆครับ

สนาม !
5560
เอาหล่ะทีนี้ กับการใช้งานของ BMW S1000 RR ดั่งที่เค้าถูกสร้างมาให้เป็น ก่อนอื่นเลยต้องออกตัวก่อนนะครับว่า ผมเองก็ไม่ใช่นักแข่ง ไม่ได้ขับขี่แข่งขันอะไรมากมาย … เดี๋ยวๆ เราเลยมีอดีตนักแข่งรับเชิญ มาช่วยขับขี่กันไปด้วยเลยครับ เรียกว่า สลับกันขี่ เอาให้น้ำมันเต็มถังหมดไปเลย รถไม่ต้องพัก ! (แต่คนอ่ะขอพักบ้างอะไรบ้างนะ)
จากน้ำหนักของรถที่ค่อนข้างเบา การวางบาล๊านซ์ของรถที่เอื้อให้สามารถพลิกรถได้อย่างคล่องแคล่ว ทำให้ BMW S1000 RR ในโหมด Sport เป็นรถที่ขี่ได้ง่าย ผสานกับอิเล็คทรอนิกส์ ที่เข้ามาช่วยหลายๆด้าน ทำให้ค่อนข้างเป็นมิตรกับผู้ขับขี่พอสมควร (แบบว่าทำตาแบ๊ว หลิ่วตา ยิ้มหวานนน เชื้อเชิญให้มากระโดดขึ้นแล้วเล่นโค้งไปด้วยกัน) การพลิกรถเข้าโค้ง S ทำได้ง่าย เดินคันเร่งออกโค้งได้สบายๆ ทั้งที่รอบต่ำ กลาง และสูง คือช่วยให้ผู้ขับขี่สนุกกับการขับขี่ในสนามได้มากพอสมควรเลยทีเดียวครับ

5421-2
หรืออยากจะสนุกให้เต็มที่ จัดเลยครับกับโหมด Race แรงบิดที่ส่งออกมามากขึ้น พร้อมจะให้ผู้ขับขี่สนาม ที่มีประสบการณ์ สามารถทะยาน และพุ่งออกไปสนุกกับเค้าได้มากขึ้น โดยยังคงมีระบบต่างคอยอำนวยความสะดวก และช่วยเหลือได้ตลอดเวลา

5430-2
หรือถ้าทักษะดี จัดเต็ม! กับโหมด Slick เลยครับ (แต่ต้องปลดล็อคก่อน) แรงบิด แรงม้า กำลัง รอบเครื่องต่างๆ พร้อมจะกวาดพุ่งทะยานไปจนสุดเข็มไมล์ จากรถสปอร์ตที่เชื่องมือ จะกลายเป็นม้าพยศ ที่ดุดัน พร้อมจะทะยานออกจากโค้งได้ทันที บอกได้แค่ว่า สนุก … สนุก … และสนุกมาก กับแรงบิด ที่ส่งออกมาแบบเต็มๆในโหมดนี้
นอกจากนั้น จุดที่เข้ามาช่วยชูโรงเลยทีเดียวสำหรับ BMW S1000 RR คันนี้ก็คือ Shift Assistant Pro ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่ “ไม่ต้องกำคลัช เพื่อลดเกียร์”คือลดเกียร์ได้ทันทีเลย แบบที่เราเห็นกันในการแข่งขัน MotoGP เนี่ยแหล่ะครับ …​ที่เราเห็นในสนาม มันลงมาอยู่ตรงฝ่าเท้าให้เราได้ใช้กันแล้ว !!!
อย่างที่เราเห็นในการแข่งขัน MotoGP ที่มีการบอกว่า อ่ะ รถคันนี้กำลังเข้าโค้งด้วยมุมเท่าไหร่แล้วน้า มาแล้วครับ กับ S1000 RR ซึ่งสามารถบอกองศาแบนโค้งสูงสุดที่ทำได้อีกด้วย !!! แทบจะบอกระดับทุกการวัดค่าต่างๆที่ต้องการในการใช้งานบนสนามทั้งหมดกันเลยทีเดียว
หรืออยากรู้เวลาหล่ะ จับเองได้เลยครับกับ การจับเวลารอบการขับขี่ (Lap Timer) ที่สามารถใช้งานได้สะดวกโดยการใช้ไฟ pass เป็นตัวจับเวลารอบการขับขี่ !!! (ขออนุญาตไม่โชว์เวลา กับองศาแบนโค้ง ละกันครับ เขิลลลล ^^’)
ลูกเล่นอีกนิดนึงที่ทำให้การปรับตั้งสำหรับการขับขี่ในสนามก็คือการปรับตั้งเป็นเกียร์แบบกลับ หรือ Reverse Shifting ได้ด้วยน็อตตัวเดียว !!! จากที่เคยงัดเกียร์ขึ้น จะกลายเป็นตบเกียร์ลงแทน (เพราะเวลาเราแบนรถลึกๆ จะงัดเท้าลงไปงัดเกียร์คงจะขูดพื้นพาลกลิ้งเป็นแน่แท้)
สำหรับ BMW S1000 RR เรียกว่าไม่ใช่รถสปอร์ตที่เพียงแค่สามารถขับขี่ได้ง่าย แต่ยังแฝงความสนุก ในการละเล่น และเพลินไปกับสนามได้ทันทีเลยเหมือนกัน

ข้อควรระวัง ! ในโหมด Slick เหมาะกับการขับขี่ในสนาม และควรเป็นยางที่พร้อมสำหรับสนามนะครับ จะเป็นยางกึ่งสนาม หรือยางสลิคเลยได้ก็ดี ในการทดสอบของเรา ได้เปลี่ยน และเลือกใช้ยางกึ่งสนามในการทดสอบในสนาม แทนยางติดรถเดิม

โหมดที่แนะนำ Race / Slick
ข้อดี / ข้อสังเกต
DSC00196
ข้อดี
  • เป็นรถสปอร์ตที่ขับขี่ง่าย คล่องตัว พลิกโค้งไปมาได้ดี
  • ของเล่นเยอะครบครัน โหมดเยอะ ใช้งานได้จริง ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ขับขี่ได้มาก
  • Shift Assistant Pro ในการขึ้นเกียร์ ทำงานได้เนียนมาก พัฒนาขึ้นมาจากตัวก่อนหน้ามากเลยทีเดียว ทำการเปลี่ยนเกียร์ได้นุ่มนวล เร็ว และให้แรงบิดที่ต่อเนื่องดีมาก .. งัดอย่างเดียว งัดไปเลย…
  • การลงเกียร์หล่ะ ทำงานได้ไว นุ่มเนียน และให้แรงฉุดที่สม่ำเสมอและต่อเนื่องดีมาก แบบไม่ต้องใช้คลัชเข้าไปช่วย ไม่ต้องบลิปคันเร่งเข้าไปเสริมเลย .. ยก ตบ ไปต่อ ..
  • Race ABS ทำงานละเอียดมาก แทบไม่มีอาการดีดดิ้นที่เท้า และมือให้รู้สึกได้เลย
  • DDC (Dynamic Damping Control) ทำงานได้อย่างน่าประทับใจมาก ปรับตั้งอัตโนมัติตามสภาพถนนต่างๆได้ด้วยตัวเอง ผู้ขับขี่ไม่ต้องทำอะไรเลย นอกจาก ขี่ .. และขี่ออกไปเลยครับ
  • ท่านั่ง สัดส่วนของรถ ความสูงของเบาะ น้ำหนัก องค์ประกอบต่างๆ ทำให้รู้สึกว่าขับขี่ได้ง่าย โดยไม่หนัก หรือ ลำบากมากเกินไป
  • … BMW …
ข้อสังเกต
  • สำหรับสรีระ 163 – 170 cm. ท่านั่งสำหรับช่วงบนค่อนข้างยืดยาว และปีกถังน้ำมันกว้างไปนิดนึง ทำให้การจัดท่าแบบ hang-on แขนจะติดๆขัดๆ กับถังน้ำมันเล็กน้อย แต่ถ้าคุ้นแล้วคงไม่รู้สึกอะไรครับ
  • เบรคหน้ามีระยะคลอน้อยเกินไป สำหรับใครที่ขับขี่แบบ trail braking (ไหลเบรคเข้าโค้ง) ต้องระวังตรงนี้พอสมควรนะครับ ระยะคลอที่น้อย ทำให้เราเกลี่ยน้ำหนักเบรคได้ไม่ค่อยละเอียดแบบปกติ และพอเบรคหน้าจับปุ๊ป โอวหน้าทิ่มปั๊ปเลยทีเดียว อาจจะพับได้ง่ายๆเลยทีเดียว แต่ถ้าขับขี่แบบเบรคแต่งตัวเข้าโค้งปกติก็สบายๆครับ
  • ร้อน! ความร้อนจากรถค่อนไปทางสูงกว่ารถสปอร์ตทั่วไปนิดหน่อย แต่ถ้าใส่ชุดขับขี่สนาม หรือเดินทาง ไม่รู้สึกอะไรครับ
  • กันสะบัดเดิมๆ ใช้งานสำหรับเดินทางบนถนน ทั่วไปได้ดี แต่สำหรับสนามจะออกอาการหนืดๆ และยังทำงานตามไม่ทันการขับขี่ในสนามบ้าง
อัตราสิ้นเปลือง
5190
2015-10-13_17h26_46
กับระยะทางรวมๆที่จับไว้กับการใช้งานทั่วไป ประมาณ 594.6 km (ยกเว้นสนามนะครับ) ใช้น้ำมันไปทั้งสิ้น 35.91 ลิตร ทำให้อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 16.55 km/litre
ส่วนการขับขี่ในสนามทำได้ที่ประมาณ 12 km/litre ก็ไม่เลวครับสำหรับการใช้งานที่รอบสูง เร่งตลอดเวลา

น่าจะเหมาะกับ / ไม่เหมาะกับ
5276-2
น่าจะเหมาะกับ
  • ผู้ที่เขยิบมาจากรุ่นกลาง 600 – 800 cc. และตั้งมั่นกับ sport
  • ผู้ที่ชอบการขับขี่แบบสนาม แต่ยังคงใช้งานในชีวิตประจำวันได้ค่อนข้างดี และมีลูกเล่นอำนวยความสะดวกในการขับขี่ให้มากที่สุดรุ่นนึงเลยทีเดียว
ไม่เหมาะกับ
  • เช่นเคยครับ “มือใหม่” อย่าเพิ่งเลยครับ ถึง S1000 RR เป็นรถสปอร์ตที่ขับขี่ได้ง่าย แต่ทั้งนี้ต้องมาพร้อมการฝึกฝนอย่างเป็นขั้นตอน ถ้าจะมาเริ่มกับคันนี้เลย อันตรายครับ
สรุปรวมๆ
20151011_132545
การขับขี่บน BMW S1000 RR คันนี้ ระบบต่างๆที่เสริมเติมแต่งเข้ามา นับว่าเป็นการพัฒนาขึ้นมาอีกขึ้นนึงเลยทีเดียวเมื่อเทียบกับโฉมก่อนหน้า การทำงานของ Shift Assistance Pro นุ่มเนียน ทั้งการงัดเกียร์ขึ้น และสับเกียร์ลง ทำให้เปลี่ยนได้ไว และการส่งต่อของกำลังไม่มีอาการสะดุด ให้รู้สึกได้เลย (แทบจะเป็นรถออโต้เลยทีเดียวครับ)
โหมดการขับขี่ต่างๆที่ให้มา เพียงพอกับการใช้งานทั่วไป ทั้งบนถนน และในสนาม ABS / DTC ทำงานได้ดีมาก ยอมรับความผิดพลาดของผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างดี
นอกจากนั้นไม่ว่าจะการขับขี่ในลักษณะ สภาพแบบไหนก็ตาม DDC ที่ทำงานอย่างละเอียด ว่องไว คือทำการปรับอัตโนมัติได้ 100 ครั้งใน 1 วินาทีพร้อมสำหรับทุกสภาพการขับขี่ และทุกเวลาได้เลย ไม่ว่าจะการใช้งานในแบบไหน การขับขี่ในเมือง การออกเดินทาง หรือเจอะเจอกับเส้นทางหลุมบ่อ ทางลูกรังแย่ๆ S1000 RR พร้อมจะปรับตัวเองให้เหมาะสมกับสภาพเส้นทาง และช่วยให้ผู้ขับขี่ผ่านเส้นทางนั้นได้ทั้งสบาย และสนุกไปพร้อมๆกัน
ความร้อนที่แผ่ออกมาของรถค่อนข้างร้อนพอสมควรถ้าจอดติดไฟแดง กลางแดดจ้าๆ ท่ามกลางจราจร นี่ร้อนเลยครับมาถึงเฟรม ถึงถังน้ำมันเลยทีเดียว แต่ถ้าขับขี่ออกตัวไปแล้ว สบายๆ ไม่รู้สึกอะไรครับ เรียกว่าถ้ารถติดๆนี่ จอดหลบดับเครื่องสบายๆกันเลยดีกว่า
แหม่ .. ขี่ S1000 RR เสร็จ อารมณ์คันๆ กับรถสปอร์ตสมัยก่อน ก็วนกลับมาอีกแล้วสินะ !!!! ฮึ้มมมม …

BKK Logo final
สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทาง BKK Motorcycle ที่ได้สนับสนุน BMW S1000 RR รถสปอร์ตคันนึงที่ได้ชื่อว่าเป็นที่สุดคันนึงในคลาสนี้ กับการใช้งานที่ครบถ้วนทั้งบนถนน การเดินทาง และการขับขี่ในสนาม
BMW Motorrad Authorized Dealer.
89 Industrial Ring Road Chongnonsi , Yannawa, Bangkok, Thailand 10120
Tel +66(02) 683-0585-86
http://facebook.com/bkkmotorcycle
10550932_315231421970674_8310229622189082563_n
นอกจากนั้นยังขอบคุณทาง 40 Garage ที่อนุเคราะห์ยางใหม่ๆ ให้เราได้เปลี่ยนใช้ พร้อมชุดกันล้ม ก่อนลงขับขี่ในสนามไปด้วย ขอบคุณนะครับ
https://www.facebook.com/40garage
13:00-21:00 mon-sat
Tel 089-667-3346
Credit : https://www.motonaked.com/reviews/20151014/review-bmw-s1000-rr/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น