10 อันดับรถบิ๊กไบค์ที่น่าใช้ที่สุด

On 29 ต.ค., 2014

หน้าแรก » บทความมอเตอร์ไซค์ » 10 อันดับรถบิ๊กไบค์ที่น่าใช้ที่สุด

ต้องบอกว่าตลาดบิ๊กไบค์ในประเทศไทย กำลังเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง หันไปทางไหนก็มีแต่ชาวไบค์เกอร์เพิ่มมากขึ้น เพราะว่าราคาที่เร้าใจและมองหาเลือกซื้อได้ง่ายมากขึ้น เมื่อเทียบกับเมื่อก่อน เราไปดูกันเลยว่า 10 อันดับรถบิ๊กไบค์ที่น่าใช้ที่สุดมีรุ่นไหน ยี่ห้อไหนกันบ้าง…..

อันดับที่ 10 ต้องรถรุ่นนี้เลย MV Agusta Rivale 800 (เอ็มวี ออกุสต้า ริวาล 800) 2013
ราคาค่าตัวอยู่ที่ 980,000 บาท

เพราะว่าเป็นมอเตอร์ไซค์รูปแบบ Super Moto ที่เป็นแบรนด์น้องใหม่ที่มาจากสัญชาติอิตาเลียน ที่เพียงเปิดตัวในบ้านเราเมื่อปีที่แล้วนี่เอง ด้วยดีไซน์ที่สวยงามและวัสดุที่ใช้ในการประกอบที่มีความประณีตงดงามและแข็งแรง ไม่ว่าจะเป็นตัวกระจกที่สามารถพับเก็บได้ที่ปลายแฮนด์ การออกแบบปลายท่อไอเสียที่ออกด้านข้าง แบบเรียงออก 3 ช่อง ซึ่งถือว่าเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นมาก พร้อมท้ายรถตูดแหลมที่มาพร้อมไฟท้ายแบบ LED เรียงต่อกัน 2 แถว บังโคลนไปติดไว้กับสวิงอร์มด้านล้างพร้อมกับไฟเลี้ยว ตัวเครื่องมาแบบ เครื่องยนต์ขนาด 3 สูบ 12 วาล์ว ขนาด 798 ซีซี ให้กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 125 ตัวความเร็วรอบสูงสุดที่ 12,000 รอบต่อนาที สามารถทำความเร็วตีนปลายได้สูงและเร็วถึง 245 กิโลเมตรต่อชั่วโมงกันเลยทีเดียว

อันดับที่ 9 Benelli BN600i (เบเนลลี่ บีเอ็น 600 ไอ) 2013
ราคาค่าตัวอยู่ที่ 295,000 บาท

ถือว่าเป็นรถรุ่นใหม่ เชื้อชาติอิตาลี สัญชาติจีน ที่กำลังมาแรงในขณะนี้ Benelli BN600i ได้มีการปรับปรุงเรื่อง Design เช่น มี Fairing ที่โดดเด่นและสวยงามปรับสีชิ้นงานบางส่วนให้ดูแข็งแรงขึ้น จะเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ได้รับความนิยมของชาวไทยเป็นอย่างดี Benelli BN600i มาพร้อมเครื่องยนต์ 4 จังหวะ 4 สูบเรียง 16 วาล์ว ขนาดความจุของเครื่องยนต์อยู่ที่ 599 ซีซี. ให้แรงม้าสูงสุด 80 แรงม้า ความเร็วรอบสูงสุดอยู่ที่ 11,000 รอบ/นาที ส่วนราคาค่าตัว ก็ถือว่าน่าสอยกันมาขับขี่เล่นกันเลยที่เดียว เรียกว่าเป็นอีกรุ่นหนึ่งที่น่าจับตามองกันเลยทีเดียว

อันดับที่ 8 Kawasaki Z1000 (คาวาซากิ แซด1000) 2014 รุ่นใหม่
ราคาค่าตัวอยู่ที่ 550,000 บาท

ถือว่าเป็นรถบิ๊กไบค์ที่มีสไตล์การออกแบบที่ดุดันมากขึ้น จากการออกแบบชุดคาวลิ่งหน้าที่เพรียวลู่ลมแบบไดนามิค รวมถึงชุดไฟหน้าใหม่แบบ LED และการออกแบบชุดครอบโช๊คหน้าที่ช่วยลดแรงเสียดทานเพิ่มและพื้นที่เพื่อให้มีการไหลเวียนของอากาศเข้าสู่เครื่องยนต์ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น เรียกว่าเป็นการออกแบบที่คำนึงถึงประโยชน์ที่จะได้รับมากที่สุด Kawasaki Z1000 มาพร้อมเครื่องยนต์แบบ 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว ขนาดความจุของเครื่องยนต์มีขนาดอยู่ที่ 1,043 ซีซี. ระบบหัวฉีด ระบบระบายความร้อนเครื่องยนต์ด้วยน้ำ ความจัดจ้านและแรงของเครื่องยนต์ตัวนี้สามารถให้กำลังและแรงบิดที่สูง มั่นใจด้วยระบบเบรกคู่หน้า 310 มม. แบบลูกสูบคู่ พร้อมระบบ ABS เรียกว่าโดนใจสาวกค่ายยักษ์เขียวกันไปไม่น้อยเลย….

อันดับที่ 7 BMW S 1000 RR (บีเอ็มดับบลิว เอส 1000 อาร์อาร์) 2012
ราคาค่าตัวอยู่ที่ 985,000 บาท

บิ๊กไบค์รุ่นนี้ถือเป็นรถแถวหน้าของสปอร์ตบิ๊กไบค์สุดหรูที่มีขนาดเครื่องยนต์ถึง 1000 ซีซี. ด้วยการออกแบบเพื่อความเป็นสปอร์ตและเพื่อการขับขี่ที่ว่องไว ในคอนเซปต์มอเตอร์ไซค์แบบซูเปอร์ไบค์ BMW S 1000 RR รุ่นนี้มาพร้อมเครื่องยนต์ 4 สูบแถวเรียง มีระบบวาล์วพิเศษที่ผลิตจากวัสดุไทเทเนียม บนตัวถังเฟรมอลูมิเนียมน้ำหนักเบา ให้แรงม้าสูงสุดถึง 193 แรงม้า ความเร็วรอบสูงสุดอยู่ที่ 13,000 รอบ/นาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 2.9 วินาที และทำความเร็วได้สูงสุดถึง 305 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเลยทีเดียว ถือว่าเป็นอีกรุ่นหนึ่งสำหรับใครที่หลงรักและชอบความแรงความเร็ว สอยมากันสักคันคงจะจิ๊ดจ๊าดน่าดู……

อันดับที่ 6 Yamaha FZ-09 (ยามาฮ่า เอฟแซด-09) 2014
ราคาค่าตัวอยู่ที่ 435,000 บาท

Yamaha FZ-09 รุ่นนี้มาพร้อมคอนเซปต์สุดเท่ The Dark Side of Japan ซึ่งรถรุ่นนี้นำเข้าจากยุโรปที่ใช้ชื่อรุ่นว่า MT-09 ในส่วนของยามาฮ่า ประเทศไทยได้เลือกใช้ชื่อ FZ-09 เหมือนในตลาดฝั่งอเมริกา เป็นส่วนผสมของมอเตอร์ไซค์โมตาร์ดสไตล์ยกสูงกับเนคเคดที่แฟริ่งน้อยชิ้นดูคล่องตัว จุดเด่นของ Yamaha FZ-09 ตัวนี้ก็คือ ตัวรถที่น้ำหนักเบาเพียง 188 กก. (ในรุ่นไม่มี ABS) มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 847 ซีซี. 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว และมีเทคโนโลยี Crossplane Crank Shaft ที่ช่วยในการตอบสนองแรงบิดได้ทันใจทุกครั้งที่เปิดคันแรง ตัวเล็กจิ๋วแต่แจ๋ว Yamaha FZ-09 ให้แรงม้าสูงสุดที่ 115 แรงม้า ความเร็วรอบสูงสุดอยู่ที่ 10,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 8.9 กก.-ม. ที่ 8,500 รอบ/นาที ระบบหัวฉีดของ Denso EFI ชิป YCC-T ในกล่องอีซียูของรถควบคุมระบบเครื่องยนต์ได้อย่างอัจฉริยะ สำหรับYamaha FZ-09 รุ่นนี้สามารถปรับโหมดการขับขี่ได้ 3 แบบตามความต้องการ โดยทั้ง 3 แบบจะขับส่งกำลังผ่านเกียร์ 6 สปีด

มาต่อกันต่อที่ อันดับที่ 5 Honda CBR500R (ฮอนด้า ซีบีอาร์ 500 อาร์) 2013
ราคาค่าตัวอยู่ที่ 210,000 บาท

เป็นรถบิ้กไบค์แบบฟูลแฟริ่ง ที่ได้รับการถ่ายทอดความเป็นซูเปอร์สปอร์ตจากบิ๊กไบค์รุ่นพี่อย่าง CBR1000RR นั่นเอง โดย Honda CBR500R รุ่นนี้ใช้เครื่องยนต์ 2 สูบแบบ DOHC ระบบหัวฉีดแบบ PGM-FI ขนาดความจุ 471 ซีซี. ให้แรงม้าสูงสุดที่ 47 แรงม้า พี้นที่วาล์วไอดีและไอเสียมีขนาดใหญ่ ก้านวาล์วขนาดเล็กออกมาแบบเพื่อให้ช่วยลดแรงเสียดทาน ทำให้ขับขี่คล่องตัวด้วยโครงสร้างที่เพรียวลม น้ำหนักเบา มาพร้อมระบบกันสะเทือนแบบโปรลิงค์ ที่ปรับได้ถึง 9 ระดับ สามารถช่วยลดแรงกระแทกขณะขับขี่ได้เป็นอย่างดี ทั้งยังเพิ่มความแม่นยำและมั่นใจในการเข้าโค้ง มาตรวัดระบบ Odometer หน้าจอแสดงผลความเร็ว รอบเครื่อง และน้ำมันแบบ LCD Digital Speedometer และนาฬิกาแบบ Fully Digital ดีไซน์สปอร์ตล้ำสมัยทุกเส้นทาง สำหรับรถ Honda CBR500R ก็เป็นอีกรุ่นหนึ่งที่ราคาไม่แพงเกินเอื้อมทำให้เป็นรุ่นยอดนิยมสำหรับสาวกบิ๊กไบค์ชาวไทย

อันดับที่ 4 Kawasaki Ninja 300 (คาวาซากิ นินจา 300) 2013
ราคาค่าตัวอยู่ที่ 182,000 บาท

สำหรับรถรุ่นนี้ถือเป็นรถบิ๊กไบค์ระดับแถวหน้าที่สร้างความคึกคักให้กับวงการบิ๊กไบค์มาตลอดระยะเวลาหลายปีกันเลย โดยปักหลักยืนหยัดกับตลาดนี้มาอย่างมั่นคง Kawasaki Ninja ถือว่าเป็นเจ้าแรกๆ ที่รุกตลาดบิ๊กไบค์ในประเทศไทยอย่างจริงจัง โดย Ninja 300 ถือเป็นบิ๊กไบค์สุดฮิตของค่ายนี้เรียกว่าถ้านึกถึง Kawasaki ก็ต้อง Ninja รถรุ่นนี้มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 2 สูบเรียง ขนาดความจุที่ 296 ซีซี. 4 จังหวะ 8 วาล์ว DOHC ระบบหัวฉีด ระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ สุดยอดเทคโนโลยีขั้นสูง ให้พละกำลังอย่างต่อเนื่อง ให้คุณสนุกเร้าใจกับการขับขี่ในเมืองและทางไกลสำหรับไบค์เกอร์มือใหม่ที่อยากลองขับขี่และอยากรู้ฟิลลิ้งเราขอแนะนำรุ่นนี้กันเลยครับ…..

มาถึง Top 3 กันแล้ว อันดับที่ 3 Ducati Monster 795 (ดูคาติ มอนสเตอร์ 795) 2013
ราคาค่าตัวอยู่ที่ 439,500 บาท

Ducati ถือว่าเป็นหนึ่งในรถบิ๊กไบค์ที่ใครๆ ถ้ามีโอกาสก็อยากจะได้จับจองมาเป็นเจ้าของสักคนหนึ่งในชีวิตก็ยังดี เพราะเป็นรถที่เหมาะกับการใช้ขับขี่ได้ทุกวันไม่ว่าจะใช้ในเมือง หรือขี่ท่องเที่ยว Monster เป็นตัวแทนแห่งภาพลักษณ์รถในรูปแบบ Naked (*รถเปลือย = ไม่มีแฟริ่งห่อหุ้ม) ที่มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ เป็นอันดับต้นๆ เนื่องจากเหมาะสมทั้งผู้เริ่มต้นต้องการขับขี่ไปจนถึงผู้ที่ต้องการความคล่องตัวและสัมผัสอารมณ์ความเป็น Naked Bike อย่างแท้จริง Ducati Monster 795 มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 795 ซีซี L-Twin 2 สูบ , 2 วาล์ว/สูบ รวม 4 วาล์ว พร้อมระบบขับวาล์วแบบ Desmodromic ให้แรงม้าอยู่ที่ 87 แรงม้า ความเร็วรอบสูงสุดอยู่ที่ 8,250 รอบ/นาที ต้องบอกเลยว่า ได้ทั้งความแรง ความจัดจ๊าด และเท่ห์ทำให้สาวๆ ที่เห็นต้องเหลียวหลังมองและอยากจะซ้อนกันเลย

อันดับที่ 2 สำหรับรุ่นนี้ ชาวไบค์เกอร์คนไหนไม่รู้จักคงจะเป็นไบค์เกอร์ไม่ได้แน่ๆ นั่นก็คือ Yamaha YZF-R1 (ยามาฮ่า วายแซดเอฟ-อาร์วัน) 2012
ราคาค่าตัวอยู่ที่ 799,000 บาท

Yamaha YZF-R1 ถือว่าเป็นสปอร์ตบิ๊กไบค์ที่สร้างชื่อเสียงให้กับค่าย Yamaha จากสนามแข่ง Moto GP มาหลายครั้ง เป็นรถบิ๊กไบค์ที่ชาวไบค์เกอร์จะต้องลืมทุกสิ่งที่คุณรู้เกี่ยวกับซุปเปอร์สปอร์ต ที่มีขนาดเครื่องยนต์ 1,000 ซีซี. เพราะ YZF-R1 เครื่องยนต์ความจุกระบอกอยู่ที่ 997 ซีซี. 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ให้แรงม้าถึง 145 แรงม้า ความเร็วรอบสูงสุดอยู่ที่ 11,000 รอบ/นาที และนี่คือความแรงที่เหนือชั้น เรียกว่าเป็นบิ๊กไบค์รุ่นแรกของโลกที่มีระบบข้อเหวี่ยงแบบ Cross Plane ช่วยในการส่งพลังการขับเคลื่อนได้อย่างต่อเนื่อง บิดมันส์ แรงเกินคาด สำหรับ Yamaha YZF-R1 ทำความเร็วได้สูงสุดๆถึง 299 กม./ชม. กันเลยทีเดียว

สำหรับอันดับ 1 คงเป็นบิ๊กไบค์คันไหนไปไม่ได้นอกจากคันนี้ นั่นคือ Suzuki GSX1300R Hayabusa (ซูซูกิ จีเอสเอ็กซ์ 1300 อาร์ ฮายาบูสะ)
ราคาค่าตัวอยู่ที่ 850,000 บาท

สำหรับบิ๊กไบค์แล้วถือว่าคันนี้เป็นสุดยอดสปอร์ตบิ๊กไบค์ที่ “เร็วที่สุดในโลก” ซึ่ง Guinness Book World’s Records ได้บันทึกไว้ตั้งแต่ปี 2001 สามารถทำความเร็วได้เกิน 300 กม./ชม. เป็นคันแรกของโลก และมีการนำเข้ามาจำหน่ายในบ้านเราจำนวนมาก ด้วยการออกแบบรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยว ดุดัน เหนือชั้นด้วยระบบ S-DMS ซึ่งเป็นโหมดการขับขี่อัจฉริยะ ปรับเปลี่ยนการทำงานของเครื่องยนต์ได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ขนาดถึง 1,340 ซีซี 4 สูบ ให้แรงม้าสูงสุด 197 แรงม้า ความเร็วรอบสูงสุดอยู่ที่ 9,500 รอบ/นาที พร้อมเกียร์ 6 สปีด ณ ปัจจุบัน วันนี้ Hayabusa ถือเป็นรถบิ๊กไบค์ระดับตํานานไปแล้ว

และนี่คือ 10 อันดับรถบิ๊กไบค์ที่มีความนิยมสำหรับไบค์เกอร์ชาวไทยและทั่วโลก แล้วคุณละครับอยากจะได้รุ่นไหนมาครอบครองกันบ้าง เราขอเป็นกำลังใจให้คุณไปถึงฝั่งฝันนะครับ….

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก autospinn.com, checkraka.com, yamaha thailand, honda thailand, kawasaki thailand

Credit : http://www.greatbiker.com/10-%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%9A%E0%B8%B4%E0%B9%8A%E0%B8%81%E0%B9%84%E0%B8%9A%E0%B8%84%E0%B9%8C%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94/

รีวิว Harley-Davidson Softail Deluxe 2016-2017 ฮาร์เล่ย์-เดวิสัน ซอฟต์เทล ดีลักซ์

ราคา Harley-Davidson Softail Deluxe 2016-2017 ฮาร์เล่ย์-เดวิสัน ซอฟต์เทล ดีลักซ์

Posted by: admin in Harley Davidson, ข้อมูลรถยอดนิยม, มอเตอร์ไซค์ November 5, 2014 0

Harley-Davidson Softail Deluxe มอเตอร์ไซค์ครุยเซอร์-ชอปเปอร์ อีกรุ่นหนึ่งในตระกูล Softail ที่มาพร้อมกับขุมพลังเครื่องยนต์ขนาด 1,585 ซีซี ด้วยเครื่องยนต์แบบ Twin Cam 96B ลิขสิทธิ์เฉพาะของฮาร์เล่ย์ เดวิสัน ระบายความร้อนด้วยอากาศ โดยมีอัตราการอัดอยู่ที่ 9.2 : 1 และมีระบบเชื้อเพลิงเป็นแบบ Electronic Sequential Port Fuel Injectionหรือที่เรียกว่า ESPFIด้วยขนาดถังน้ำมันความจุเชื้อเพลิง 18.9 ลิตร และมีอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงอยู่ที่ 5.6 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร

ราคา 2016-2017 Harley-Davidson Softail Deluxe ฮาร์เล่ย์-เดวิสัน ซอฟต์เทล ดีลักซ์ ใหม่

ยี่ห้อ/รุ่น	เครื่องยนต์	ปริมาตร ซี.ซี.	ระบบเกียร์	ราคาจำหน่าย(บาท)
Harley-Davidson Softail Deluxe	4 จังหวะ 2 ลูกสูบ V-Twin OHV ระบายความร้อนด้วยอากาศ	1,585	ธรรมดา 6 สปีด	1,419,000

Harley-Davidson Softail Deluxe มาพร้อมกับระบบเกียร์แบบ 6 สปีด  พร้อมด้วยระบบเบรกแบบ 4-piston ที่ล้อหน้าและแบบ 2-pistonที่ล้อหลัง ทำให้ผู้ขับขี่มั่นใจในการหยุดรถได้อย่างมั่นใจ และระบบกันสะเทือนด้านหน้า Traval 130 มม. ด้านหลัง Traval Rear Wheel 91 มม.

ฮาร์เเล่ย์-เดวิสัน ซอฟต์เทล ดีลักซ์ เลือกใช้วัสดุแบบโครเมี่ยม ที่ได้รับการออกแบบให้เป็นแบบ straight over/under shotgun exhaust with dual tapered mufflers ที่ให้ขนาดหน้ากว้างใหญ่พิเศษและคงทนแข็งแกร่งด้วยวัสดุที่เลือกสรรอย่างดี ส่วนล้อหน้านั้นแบบ Chrome Aluminum Profile Laced ในขณะที่ล้อหลังเป็นแบบ Steel Laced นอกจากนี้ในส่วนของหน้าปัดแสดงมาตรวัดค่าต่างๆ ยังเป็นแบบอนาล็อคผสมกับดิจิตอล โดยการแสดงผลหน้าจอเป็นแบบ LED พร้อมด้วยเบาะนั่งหนังแท้ขนาดใหญ่ แบบจำนวน 2 ที่นั่ง 2 ชิ้นแบบแยกส่วนต่างระดับ และเสริมด้วยโคมไฟเดี่ยวดวงใหญ่ที่ด้านหน้ากลางตัวถังพร้อมขนาบข้างด้วยโคมไฟเล้กอีกสองดวง ช่วยเพิ่มความดุดัน

ข้อมูลทางเทคนิค Harley-Davidson Softail Deluxe

สัดส่วนตัวรถ
– ยาว 2,400 มม.
– กว้าง 670 มม.
– ระยะห่างฐานล้อ 1,635 มม.
– ความสูงเบาะ 670 มม.
– น้ำหนักรวม 330 กิโลกรัม

เครื่องยนต์ : V-Twin OHV พร้อม Hydraulic 2 วาล์ว/สูบ ระบายความร้อนด้วยอากาศ
ขนาดความจุ : 1,585 ซีซี
ความกว้างกระบอกสูบ x ระยะชัก : 95.3 x 111.1 มม.
กำลังอัดเครื่องยนต์ 9.2 : 1
ระบบระบายความร้อน : อากาศ
ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง : หัวฉีดอิเล็คทรอนิคส์ (ESPFI)
ระบบขับเกีียร์ : 6 สปีด
ถังน้ำมันเชื้อเพลิง : 18.9 ลิตร

ระบบเบรค :
– ด้านหน้า ดิกส์เบรก ขนาด 292 x 5.1 มม. ปั๊ม 4 ลูกสูบ
– ด้านหลัง ดิกส์เบรก ขนาด 292 x 5.8 มม. ปั๊ม 2 ลูกสูบ

ระบบกันสะเทือน
– ด้านหน้า Traval 130 มม.
– ด้านหลัง Traval Rear Wheel 91 มม.

ยาง
– ยางหน้า Dunlop MT90B16 72H
– ยางหลัง Dunlop MU85B16 77H

Credit : http://www.siaminside.com/2014/11/05/2016-2017-harley-davidson-softail-deluxe/