รีวิว SUZUKI SV650 2016
วันนี้มาดูถึงรถบิ๊กไบค์อีกรุ่นหนึ่งที่ถือว่ามีคนให้ความสนใจสูงมากๆ ทีเดียวในโลกของมอเตอร์ไซค์ตอนนี้ นั่นก็คือเจ้า SUZUKI SV650 2016 รถในแนวเนกเกตไบค์ ที่เน้นการออกแบบในสไตล์คลาสสิกผสมนั่นเอง และก็เปิดตัวกันไปในบ้านเราเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และแน่นอนว่ามันอาจจะพลิกฟื้นชะตาของทางซูซูกิอีกครั้ง เพราะว่ารถในแนวนี้มีคนเล่นกันเยอะทีเดียว อย่างไรก็ตามลองไปดูรายละเอียดการรีวิวในแง่มุมต่างๆ ของเจ้าโมเดลนี้กันเลยดีกว่า
หมายเหตุ (บทความนี้เป็นการอ้างอิงมาจากเว็บ motorcyclenews.com)
การขับขี่และระบบช่วงล่าง (คะแนน 3 เต็ม 5)
ท่าทางในการขับขี่นั้นถือว่ามีความเป็นสไตล์เนกเกตค่อนข้างเต็มตัว นั่นก็คือแฮนด์มันไม่ก้มลงต่ำมากนัก ทำให้การใช้งานในเมืองนั้นมีความคล่องแคล่วสูงและไม่เมื่อยข้อมือ แต่สำหรับระบบช่วงล่างนั้นยังถือว่าไม่ได้สมบูรณ์แบบเต็มที่ แม้ว่าจะสามารถปรับระยะยุบตัวคืนตัวของโช๊คอัพได้ถึง 7 ระดับด้วยกัน แต่การทำงานจริงๆ ของมันยังดูธรรมดาเกินไปสำหรับการซับแรงสั่นสะเทือน เข้าใจว่าตรงนี้เป็นการควบคุมต้นทุนของโมเดลนี้ด้วย
ท่าทางในการขับขี่นั้นถือว่ามีความเป็นสไตล์เนกเกตค่อนข้างเต็มตัว นั่นก็คือแฮนด์มันไม่ก้มลงต่ำมากนัก ทำให้การใช้งานในเมืองนั้นมีความคล่องแคล่วสูงและไม่เมื่อยข้อมือ แต่สำหรับระบบช่วงล่างนั้นยังถือว่าไม่ได้สมบูรณ์แบบเต็มที่ แม้ว่าจะสามารถปรับระยะยุบตัวคืนตัวของโช๊คอัพได้ถึง 7 ระดับด้วยกัน แต่การทำงานจริงๆ ของมันยังดูธรรมดาเกินไปสำหรับการซับแรงสั่นสะเทือน เข้าใจว่าตรงนี้เป็นการควบคุมต้นทุนของโมเดลนี้ด้วย
เครื่องยนต์ (คะแนน 4 เต็ม 5)
สำหรับเครื่องยนต์ของเจ้า SV650 นั้นจะเริ่มแสดงออกถึงประสิทธิภาพของมันอย่างเต็มที่ในช่วงรอบประมาณ 8,000 จนถึง 9,000 ก่อนที่จะไปตันๆ ในช่วง 10,000 รอบ ทำให้ความรู้สึกเกี่ยวกับอัตราเร่งในรอบต้นๆ นั้นไม่จัดจ้านมากเท่าไหร่ ซึ่งสำหรับนักบิดที่พอมีประสบการณ์แล้วอาจจะไม่ได้ซีเรียสกับตรงนี้เท่าไหร่ แต่สำหรับนักบิดที่เริ่มๆ ขยับรถมาในคลาสนี้ และหวังถึงพลังของทอร์คในช่วงความเร็วต้นอาจจะรู้สึกว่ามันตอบสนองได้ไม่เต็มที่ แต่อย่างไรก็ตามภาพรวมแล้วมันยังถือว่าเป็นรถที่บิดสนุกมือ ถ้ารู้จังหวะและนิสัยของมัน
สำหรับเครื่องยนต์ของเจ้า SV650 นั้นจะเริ่มแสดงออกถึงประสิทธิภาพของมันอย่างเต็มที่ในช่วงรอบประมาณ 8,000 จนถึง 9,000 ก่อนที่จะไปตันๆ ในช่วง 10,000 รอบ ทำให้ความรู้สึกเกี่ยวกับอัตราเร่งในรอบต้นๆ นั้นไม่จัดจ้านมากเท่าไหร่ ซึ่งสำหรับนักบิดที่พอมีประสบการณ์แล้วอาจจะไม่ได้ซีเรียสกับตรงนี้เท่าไหร่ แต่สำหรับนักบิดที่เริ่มๆ ขยับรถมาในคลาสนี้ และหวังถึงพลังของทอร์คในช่วงความเร็วต้นอาจจะรู้สึกว่ามันตอบสนองได้ไม่เต็มที่ แต่อย่างไรก็ตามภาพรวมแล้วมันยังถือว่าเป็นรถที่บิดสนุกมือ ถ้ารู้จังหวะและนิสัยของมัน
คุณภาพของตัวรถและงานประกอบ (คะแนน 5 เต็ม 5)
การออกแบบตัวรถนั้นทางค่ายค่อนข้างชัดเจนว่าจะทำเป็นแนวรถที่ไม่ซับซ้อนมากนัก ด้วยความที่มีชิ้นส่วนน้อยชิ้นนั่นเองทำให้ผู้ผลิตนั้นเน้นถึงคุณภาพของชิ้นส่วนและงานประกอบในแต่ละจุดได้เป็นอย่างดี ดูแล้วตัวรถมีความแข็งแรงและทนทานเอามากๆ เพราะฉะนั้นประเด็นนี้หายห่วงกันได้เลย
ความคุ้มค่า (คะแนน 4 เต็ม 5)
สำหรับเรื่องราคาของโมเดลนี้นั้นถือว่าไม่ใช่ปัญหาใหญ่แต่อย่างใด เพราะอยู่ในช่วงราคาเดียวกันกับคู่แข่งรุ่นอื่นๆ ในคลาสเดียวกันนี้ แต่มันก็ไม่ได้มีความพิเศษอะไรที่โดดเด่นออกมา หากไม่นับในเรื่องของสไตล์ที่มันมีความเป็นคลาสสิกแล้ว รายละเอียดอื่นๆ ของตัวรถนั้นก็ถือว่าไม่ต่างกันกับคู่แข่งมากนัก แต่ก็ถือว่าสอบ่านตามมาตรฐาน
ภาพรวม (คะแนน 4 เต็ม 5)
เจ้า SV650 คันนี้ที่ปรากฏตัวสู่สายตาชาวโลกครั้งแรกนั้นก็สร้างความตื่นเต้นแก่เหล่าไบค์เกอร์ทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ ภาพลักษณ์และสไตล์โดยรวมนั้นถือว่าค่อนข้างเฉพาะตัวทีเดียว (ฉีกออกจากโมเดลอย่าง Gladius จากค่ายเดียวกันเองอย่างมาก) ตรงนี้ต้องยอมรับในความใจกล้าของทางค่าย Suzuki ที่กล้าจะแหวกกระแสรถเนกเกตไบค์สำหรับตลาดแมสให้ออกมามีหน้าตาอย่างนี้ ท่ามกลางคู่แข่งที่ออกแนวโมเดิร์นกันเต็มตัว และตัวรถนั้นมีความเป็นมิตรกับผู้ขับขี่มากพอสมควรจากการเซ็ททอร์คให้ไม่หนักมากจนเกินไปในช่วงความเร็วต้น แต่จุดนี้เองอาจจะทำให้บางคนรู้สึกว่ามันไม่จัดจ้านเท่าที่ควร แต่ความเร็วช่วงกลางๆ นั้นก็จัดให้กันอย่างเต็มที่ มันจะเหมาะมากๆ สำหรับคนที่ชอบรถแบบเน้นการขี่ในเมืองเป็นหลัก ต้องการรถที่มีความคล่องตัวสูง และชอบความแตกต่างกับสไตล์รถเนกเกตทั่วๆ ไป
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก motorcyclenews.com และ http://www.greatbiker.com/%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%A7-suzuki-sv650-2016/
และภาพสวยๆครับ
และภาพสวยๆครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น